เกลียวเอียง, ตรง,
ISO, NPT, JIS และอีกหลากหลายชื่อที่อาจทำให้ใครหลายคนสับสน
แต่ไม่ต้องห่วงวันนี้เราจะมาแถลงไขให้เอง
ก่อนจะเข้าเรื่องเราขออธิบายคำศัพท์พื้นฐานต่างๆของเกลียวเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันเสียก่อน
· ระยะเกลียว (Pitch) ระยะระหว่างยอดเกลียวหรือระหว่างรากเกลียว
เกลียวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ เกลียวเอียง และ
เกลียวตรง
1)
เกลียวเอียง (Tapered Thread)
เกลียวเอียงจะมีลักษณะเกลียวที่ค่อยๆลาดเอียงลง เกลียวชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้ซีลรั่วด้วยหน้าสัมผัสของตัวเอง สังเกตุง่ายๆเกลียวชนิดนี้ถ้าขันจำนวนรอบที่สูงขึ้นจะยิ่งแน่น และขันยากขึ้น อย่างไรก็ตามถึงแม้หน้าเกลียวจะแนบกันแล้วแต่ก็จะยังคงมีช่องว่างเล็กๆเหลืออยู่ที่ตำแหน่งยอด และรากเกลียว (ดังรูป)
ทำให้ของไหลซึมออกมาจากช่องว่างเหล่านี้ได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้วัสดุหล่อลื่นและช่วยซีลรั่ว เช่นเทปพันเกลียว PTFE หรือ SWAK ซีลแบบครีม จะช่วยป้องกันการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันเกลียวหลอดติดกัน (Seat) จาการเสียดสีเมื่อขันเกลียวติดกัน และนอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการกะเทาะ (Galling) ระหว่างหน้าสัมผัสเกลียวซึ่งพบมากในวัสดุที่เป็นกลุ่มสแตนเลส และโลหะผสมที่มีความสามารถในการสร้างออกไซด์ในผิวได้ พบได้มากในการเดินท่อ Pipe ต่างๆ
สำหรับเกลียวเอียงมุมเอียงของแนวเกลียวจะอยู่ที่ 1° 47' (
เทียบได้กับอัตรเอียง 1:16 )
และเกลียวเอียงสามารถแบ่งออกเป็น 2 มาตรฐานใหญ่ๆได้แก่ NPT และ
ISO 7/1
1.1 เกลียวมาตรฐาน NPT
· เป็นเกลียวมาตรฐานอเมริกา ย่อมาจาก National Pipe Tapered
· ยอด และรากเกลียวมีลักษณะตัดเรียบแบน
· ระยะระหว่างเกลียว ถูกวัดด้วยหน่วยของจำนวนเกลียวต่อนิ้ว
· มุมระหว่างเกลียวเท่ากับ 60 องศา
· อาจรู้จักภายใต้ชื่อของมาตรฐาน :
o
ANSI / ASME B1.20.1
o SEA AS71051
· เป็นเกลียวมาตรฐานยุโรป ซึ่งจะมีประเทศหลักๆที่ใช้คืออังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน และประเทศอื่นๆในโซนยุโรป โดยชื่อย่อมากจาก International Standard OrganizationSpecification 7/1
· ยอดและรากเกลียวมีลักษณะมน
· ระยะระหว่างเกลียว ถูกวัดด้วยหน่วยของจำนวนเกลียวต่อนิ้ว
· มุมระหว่างเกลียวเท่ากับ 55 องศา
· อาจรู้จักภายใต้ชื่อของมาตรฐาน :
o
BSPT (British Standard Pipe Taper)
o
BS EN 10226-1
o
JIS B0203
o
BS 21
o
Din 2999
ถ้าสังเกตุจากตารางให้ดีจะพบว่าจริงๆแล้วเจ้าเกลียวทั้งสองมาตรฐานนี้สามารถรับแรงดันได้เท่ากัน
จะมีจุดแตกต่างกันที่องศามุมระหว่างเกลียวเท่านั้นเอง
2) เกลียวขนาน/เกลียวตรง (Parallel Thread)
เกลียวจะมีลักษณะตรง เกลียวขนานไม่สามารถซีลรั่วได้ด้วยตัวมันเอง
จะต้องใช้
Gasket (ประเก็น) หรือ O-ring ช่วย มักพบเกลียวชนิดนี้ได้บ่อยในข้อต่อ บนเครื่องจักร, ก้านวาล์ว, นัตล็อค ฯลฯ
เกลียวขนานแบ่งออกเป็น 3
มาตรฐานใหญ่ๆได้แก่ Unified Screw Threads, ISO 228/1 และ Metric
(ISO 261)
2.1 Unified Screw Threads
· Swagelok จะใช้รหัสว่า ST, O-Seal
· มุมระหว่างเกลียวเท่ากับ 60 องศา
· ระยะระหว่างเกลียว ถูกวัดด้วยหน่วย
ของจำนวนเกลียวต่อนิ้ว
· ยอดและรากเกลียวมีลักษณะถูกตัด
· อาจรู้จักภายใต้ชื่อของมาตรฐาน :
o
ANSI / ASME B1.1
o SAE / เกลียวตรง MS
2.2 ISO 228/1
· 2.2 ISO 228/1
· Swagelok จะใช้รหัสว่า RP, RS, RG, RJ
· มุมระหว่างเกลียวเท่ากับ 55 องศา
· ระยะระหว่างเกลียว ถูกวัดด้วยหน่วยของ จำนวนเกลียวต่อนิ้ว
· ยอดและรากเกลียวมีลักษณะมน
· อาจรู้จักภายใต้ชื่อของมาตรฐาน :
o
BSPP (British Standard Pipe Parallel)
o JIS B0202
2.3 ISO 261
· มุมระหว่างเกลียวเท่ากับ 60 องศา
· ระยะระหว่างเกลียว
ถูกวัดด้วยหน่วยของมิลลิเมตร
· ยอดและรากเกลียวมีลักษณะถูกตัด
และยังมีความกว้างที่แตกต่างกันออกไป
· อาจรู้จักภายใต้ชื่อของมาตรฐาน :
o
ISO 68-1
o
JIS B0205
o
ANSI / ASME B1.13M
o
M Profile
เห็นไหมละคะ เรื่องเกลียวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้าใครอยากรู้รายละเอียดแบบลงลึก
พร้อมวิธีการตรวจสอบเกลียวที่ถูกต้องแบบมือโปร สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่
ส่วนใครที่มีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถคอมเมนต์มาถาม พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะคะ เราจะได้สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ไปพร้อมๆกันแล้ววพบกันใหม่ครั้งหน้า อย่าลืมติดตามกันนะคะ
Comments
Post a Comment