วาล์วมีหน้าที่การทำงานอยู่หลายแบบ ซึ่งทาง Swagelok ได้แบ่งหน้าที่ของการทำงานของวาล์วออกคร่าว ๆ ได้ 5 แบบดังนี้
ออกแบบมาเพื่อใช้งานในการเปิดปิดเท่านั้น
ถ้านำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เช่น ใช้หรี่ หรือควบคุมอัตราการไหล อาจทำให้วาล์วเสียหาย
และรั่วเอาง่ายๆ วาล์วเปิดปิดมีประเภทที่พบเจอบ่อย ๆ ได้แก่
1.1 Ball Valve
1.2 Diaphragm Valve
1.3 Gate Valve
1.4 Plug Valve
1.5 Pinch Valve
1.6 Rising Plug Valve
1.7 Butterfly Valve
2. Flow Control
เป็นวาล์วที่ใช้ในการควบคุมปริมาณอัตราการไหล หรือใช้หรี่
(Regulate Flow) ประเภทของ
Flow Control มีดังนี้
2.1 Globe
Valve
2.2 Needle
Valve
• Regulating Valve
• Fine Metering Valve
3. Directional Flow
ใช้สำหรับควบคุมทิศทางการไหลของของไหลให้ไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งมีสองประเภทคือ
3.1 Check
Valve
3.2 Multi-port Ball Valve
4. Over Pressure Protection
มีคุณสมบัติในการระบายแรงดัน
จะเปิดอัตโนมัตเมื่อมีแรงดันในระบบสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ และจะปิดลงปกติ
เมื่อแรงดันคงที่อยู่ในระดับที่เราตั้งไว้ มีสามชนิดคือ
4.1 Relief
Valve
4.2 Proportional Relief
4.3 Rupture
Disc
5. Excess
Flow Protection
ทำหน้าที่ป้องกันอัตราการไหลที่มีสูงเกินกว่าที่กำหนด
อันเนื่องมาจากความเสียหายที่เกิดขึ้นบนท่อเช่นท่อแตกหัก
วาวล์ควบคุมการไหลจะปิดลงทันทีโดยอัตโนมัต
เพื่อป้องกันไม่ให้ของไหลรั่วไหลออกมาจากระบบ และวาล์ชนิดนี้คือ Excess Flow Valve
เห็นไหมละคะว่าเรื่องวาล์วไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่อาจจะต้องทำความเข้าใจและเลือกใช้วาล์วให้ถูกประเภทตาม function ของงานนั้น ๆ แค่นี้วาล์วของคุณก็จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานไปพร้อม ๆ กัน ส่วนใครที่มีข้อมูลหรือคำถามเพิ่มเติมก็สามารถคอมเมนต์มาแชร์กันได้เลยสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้รอคุณอยู่
Comments
Post a Comment